ดงบังชินกิ ส่อเค้าวงแตก!!! เมื่อ ชางมิน-ยุนโฮ ไม่เอาเพื่อน
"ดงบังชินกิ" ส่อเค้าวงแตก!!! เมื่อ "ชางมิน-ยุนโฮ" ไม่เอาเพื่อน ขอยืนข้าง SME (มติชนออนไลน์)
โดยเซาะเปีย
ภายหลังจากที่ ศาลกรุงโซล มีคำสั่งเบื้องต้นให้สัญญาระหว่าง SM Entertainment ต้นสังกัดของ "ดงบังชินกิ" เป็นโมฆะ ล่าสุด SM Entertainment โดยฝ่ายกฎหมายได้แถลงคัดค้านคำตัดสินของศาล ความว่า ...
"คำตัดสินของศาลไม่ยุติธรรม ศาลไม่ได้ตระหนักถึงเหตุผลหลักของกรณีนี้ ที่เซ็นสัญญาระยาวก็เพื่อที่จะดูแลพวกเขาได้ติดต่อกันเป็นเวลานาน เราต้องการที่จะคอยดูแลเส้นทางอาชีพของศิลปินในระยะยาว แต่คำตัดสินของศาลกลับสั่งไม่ให้พวกเราได้ทำอย่างนั้นได้ ซึ่งจะต้องมีผลต่อการโปรโมทวงดงบังชินกิในต่างประเทศ อีกทั้งจะสร้างความสับสนให้กับศิลปินหากเขาต้องการทำสัญญาระยาวเพื่อที่จะเติบโตในอาชีพต่อไป และในส่วนของบริษัทเองก็ต้องการที่จะบ่มเพาะศิลปินในระยะยาวอีกด้วย ไม่เพียงแค่นั้นยังเป็นการขัดขวางสาระสำคัญที่จะส่งเสริมศิลปินเกาหลี ดนตรีเกาหลีไปสู่ต่างประเทศ"
"ในแต่ละปี เราได้มีการปรับปรุงสัญญาให้เป็นไปตามที่สมาชิกปรารถนา ก่อนที่ปัญหานี้จะเกิดขึ้น สมาชิกทั้ง 3 คน (เซีย จุนซู, มิกกี้ ยูชอน และฮีโร่ แจจุง) ไม่เคยบ่นเรื่องใด ๆ เลย แต่มาตอนนี้เมื่อพวกเขาประสบความสำเร็จอย่างมาก พวกเค้ากับเริ่มบ่นถึงปัญหาต่าง ๆ พวกเขาก้าวขึ้นสู่ระดับท็อปได้และตอนนี้ก็อยากจะแยกตัวออกไป และก่อนที่คำพิพากษาสุดท้ายจะมาถึง ทั้ง 3 คน สามารถสามารถดำเนินกิจกรรมส่วนตัวต่าง ๆ และรับงานเป็นเอกเทศได้ แต่เราจะไม่อนุญาตให้พวกเขาทำในนาม "ดงบังชินกิ" ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป และในระหว่างนี้เราจำเป็นต้องเรียกเก็บเงินหากว่าพวกเขาทำภายใต้ชื่อ "ดงบังชินกิ" "
ความร้อนแรงไม่ได้มีแค่นั้น เมื่อสมาชิกที่เหลือของวง "ชางมิน-ยุนโฮ" ตัดสินใจที่จะเลือกข้าง แต่เลือกข้างใคร !!??
หลังจากเรื่องราวความขัดแย้งของ 3 สมาชิก "ดงบังชินกิ" กับบริษัทต้นสังกัด ที่ผ่านมายังไม่เคยได้ยินปฏิกริยาต่าง ๆ จากสมาชิกที่เหลือของวงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลย
แต่ล่าสุดทั้ง "ชิม ชางมิน" และ "ยูโน ยุนโฮ" ได้ออกแถลงการณ์และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ พร้อมกับตัดสินใจที่จะเลือกเข้าข้าง "SM Entertainment"
แถลงการณ์ดังกล่าวมีใจความว่า พวกเขาทั้งสองเชื่อใจใน SM Entertainment และจะอยู่กับบริษัทต่อไปในอนาคต พร้อมกับขีดเส้นตายเพื่อนสมาชิกในวง ได้แก่ จุนซู, ยูชอน และแจจุง ด้วยการแสดงให้เห็นว่าวงดงบังชินกิจะกลับมาร่วมกันโปรโมทที่เกาหลีในฤดูใบไม้ผลิหน้านี้ โดยให้ตัดสินใจก่อนวันที่ 12 พฤศจิกายน
"เราสมาชิกวงดงบังชินกิทั้ง 5 คน ได้เซ็นสัญญาเหมือนกันด้วยเหตุผลเดียวกันเป็นเวลา 5 ปีมาแล้ว และได้ทำงานร่วมกันภายใต้เงื่อนไขที่ต้องเชื่อใจบริษัทอย่างสูงสุดเพื่อทำความฝันของแต่ละคนและความฝันของพวกเรา เราตั้งใจที่จะ แบ่งปันฝันและอนาคตร่วมกับบริษัทและรักษาสัญญาซึ่งได้ร่วมกันในข้อตกลงนั้น ดงบังชินกิถูกสร้างโดย SME และเรามุ่งมั่นที่จทำงานในนาม ดงบังชินกิ กับ SME" ในจดหมายระบุ
ในคำแถลงยังระบุต่อว่า "ไม่มีบริษัทใดที่จะสามารถสร้าง ดงบังชินกิ ขึ้นได้เหมือนกับที่ SME ทำ ทั้งโปรดักชั่นที่สุดยอดและการจัดการที่เยี่ยมยอด สมาชิกทั้ง 3 รู้ดีกว่าใครว่า SME เป็นผู้ที่รู้จักดงบังชินกิดีที่สุดและทำให้เรากลายเป็นที่หนึ่ง เรามุ่งหมายที่จะรักษาความเชื่อถือและสัญญา ดังนั้นเราจะอยู่ข้าง SME อนาคตอันยิ่งใหญ่ของดงบังชินกิ จะอยู่กับ SME"
"เราเชื่อว่าการโปรโมทที่เกาหลี ซึ่งวางแพลนไว้ในฤดูใบไม้ผลิหน้า ได้เตรียมการไว้แล้วอย่างน้อย 6 เดือน ถึงแม้ว่าจะเผชิญหน้ากับอนาคตของวงที่ยังไม่แน่ชัด ถ้าสมาชิกทั้ง 3 คนอยากจะกลับมาอยู่ร่วมกันเป็นดงบังชินกิจริงๆ ก็ต้องรีบตัดสินใจก่อนที่มันจะสายเกินไป" แถลงการณ์ระบุ
นอกจากนี้ พวกเขายังให้ความเห็นถึงประเด็นธุรกิจความงามที่กำลังจะเกิดขึ้นกับ SM Entertainment ว่า "ธุรกิจความงามได้เปลี่ยนทุกอย่าง เราไม่คุ้นเคยกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เราเชื่อว่า SM Entertainment มีเหตุผลที่จะแสวงหาผลประโยชน์ทางธุรกิจกับดงบังชินกิ ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว"
"เราไม่ต้องการชื่อเสียงหรือความภาคภูมิใจของดงบังชินกิซึ่งหาได้จากการทำงานหนัก แล้วทำลายบริษัทซึ่งก็ทำงานอย่างถูกต้อง เราตระหนักถึงสัญญาระหว่างบริษัทและกับเพื่อนทั้ง 3 คน เท่ากับที่เรารู้ว่าทั้งสามคนสามารถหารายได้มากเท่าไหร่กับข้อตกลงนี้ สิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับดงบังชินกิ ก็คือเราลงแรงร่วมกันมาถึง 5 ปีสร้างความฝันของพวกเราจะต้องร่วงหล่นไปกับข้อที่ว่าบริษัทไร้ศีลธรรมซึ่งมันยอมรับไม่ได้" แถลงการณ์ของ ชางมิน-ยุนโฮ ระบุ
ไม่เพียงแค่นั้น ทางฝ่าย พ่อของทั้ง "ชางมิน-ยุนโฮ" ก็มาร่วมวงเล่นเองเหมือนกัน
พ่อของทั้ง ชางมิน และยุนโฮ ซึ่งไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับการต่อสู้คดีนี้เลย ก็ออกมาแสดงตัวสนับสนุนความคิดของลูกชาย และ SM Entertainment
โดยแถลงการณ์ของ พ่อยุนโฮ ระบุว่า "สมาชิกทั้งสองคนไม่ได้มีส่วนในข้อกฎหมายนี้ พวกเขาเป็นเหยื่อของสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขาสูญเสียรายได้ และทุกข์ใจมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น และที่สำคัญที่สุดคือพวกเขาสูญเสียชื่อเสียงที่สั่งสมมา ใครกันที่จะต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น เราอยากจะถามสมาชิก 3 คนนั้นว่า พวกเขามีเหตุผลอะไร ทำไมถึงได้มีปัญหากับบริษัททั้งๆ ที่กำลังจะไปสู่ระดับสากลแล้ว อยากจะให้วงแตกหรืออย่างไร พวกคุณไม่แคร์ถึงเพื่อนอีก 2 คนในวงบางหรือว่าเค้าจะทุกข์ใจหรือไม่"
ขณะที่แถลงการณ์ของพ่อชางมิน ระบุว่า "คิดว่าเหตุผลที่สมาชิก 3 คนเลือกที่จะทำกับบริษัทเพราะการจัดการด้านธุรกิจ และอีกอย่างก็คือส่วนแบ่งรายได้ พวกเขาไม่พอใจอะไร เหตุผลที่อ้างว่าสัญญาไม่ยุติธรรมและไม่ชัดเจนเรื่องการแบ่งผลกำไร น่าจะซ่อนอยู่เบื้องหลังเหตุผลที่แท้จริงมากกว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่องนี้มีคุณพ่อคุณแม่ของหนึ่งในนั้นถึงกับโทรมาบอกผมว่า ธุรกิจนี้ทำเงินได้เป็นหลายร้อยล้านหรืออาจจะพันๆ ล้านในอนาคต เมื่อเราบอกสื่อว่าดงบังชินกิจะเริ่มต้นธุรกิจ ราคาของสินค้าจะพุ่งขึ้นสูงถึงเพดานเลยทีเดียว เราบอกคุณไว้เป็นข้อมูลนะ นี่คือสิ่งที่พ่อแม่คนนั้นได้บอกผมไว้ และแม้สมาชิกทั้งสามจะอ้างว่าสัญญาไม่แฟร์หรือส่วนแบ่งไม่ชัด แต่ผมกับลูกชายก็ได้อ่านมันก่อนที่จะเซ็นข้อตกลงอย่างชัดเจน และเห็นด้วยกับเหตุผลทั้งหมดตั้งแต่เซ็นสัญญาครั้งแรก ผมรู้สึกเสียใจมากกับสิ่งที่สมาชิกทั้งสาม และครอบครัวของพวกเค้าได้ทำ"
...เมื่อผู้ใหญ่เองก็หนุนหลังให้ลูกๆ เลือกข้าง ต่อไปยังไม่รู้ว่าอนาคตของ "ดงบังชินกิ" จะเป็นเช่นไร หรือว่านี่จะเป็นการส่งสัญญาว่าสุดท้ายแล้ว ตำนานสุดยอดบอยแบนด์แห่งเอเชีย "ดงบังชินกิ" จะเหลือเพียงแค่เชื่อเท่านั้น T-T
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น